Bangpakok Hospital
  • A
  • A
  • A
BPK Hotline

“ถนนสายสุขภาพ” ห่างไกล COVID-19

27 เม.ย. 2563


“80% ของผู้ติดเชื้อ COVID-19 สามารถหายเองได้ เพราะมีภูมิต้านทานที่ดี”

   สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่กำลังแพร่กระจายในวงกว้าง รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอาจทำให้หลายๆ คนเกิดความวิตกกังวลใจว่าจะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างไร? และจากการนำเสนอข่าวในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ความรุนแรงของเชื้อไวรัส COVID-19 นั้นมีความแตกต่างกันออกไปตามช่วงวัย โดยจะพบความรุนแรงมากในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ
   หากสังเกตจากค่าเฉลี่ยของคนที่ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก จากกลุ่มคน 100 คน มีประมาณ 20 คนที่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และมีประมาณ 80 คนที่หายได้เอง ซึ่งจะเกิดขึ้นในกลุ่มของคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างเสริมสุขภาพของทุกคนให้แข็งแรง พร้อมต่อสู้กับทุกสถานการณ์ ตามแนวทางการดูแลสุขภาพแบบ “ชีวจิต”
แล้วการดูแลสุขภาพแบบ “ชีวจิต” ต้องทำอย่างไร?
   นพ.สัมพันธุ์  ธนกิจจำรูญ  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การที่จะมีสุขภาพและภูมิต้านทานร่างกายที่ดีได้ จะต้องทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเสียก่อน เนื่องจากระบบต่างๆ ในร่างกายของมนุษย์เกี่ยวข้องกับการทำงานของเซลล์ทั้งสิ้น ยิ่งเซลล์ในร่างกายทำงานได้ดี ระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะทำงานได้ดีตามไปด้วย ซึ่งการดูแลสุขภาพแบบ “ชีวจิต” นั้น เป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เน้นความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสุขภาพกายและใจตามแนวทางธรรมชาติ โดยเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน แบ่งออกเป็น 4 เรื่องด้วยกัน ดังนี้
  1. อาหารถูกต้องทั้งชนิดและสัดส่วน
  2. การออกกำลังกายสม่ำเสมอตามความเหมาะสมของแต่ละคน
  3. การช่วยร่างกายกำจัดสิ่งตกค้างออกในบางกรณี
  4. คำแนะนำเรื่องไวตามินและสารเสริมอาหารตามความเหมาะสม
1. “You are what you eat” กินแบบไหน ได้แบบนั้น
   อาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวัน แน่นอนว่าต้องมีทั้งที่เป็นประโยชน์และเป็นโทษต่อร่างกาย แตกต่างกันออกไปตามส่วนผสมและคุณภาพของวัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาประกอบอาหารแถมบางครั้งของที่ดีต่อสุขภาพ รสชาติก็อาจไม่ถูกปาก ส่วนของอร่อยถูกปากกลับเป็นอาหารที่ไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเอาเสียเลย ซึ่งพฤติกรรมการกินเหล่านี้นี่เองที่เป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพที่จะตามมา เฉกเช่นคำกล่าวที่ว่า “You are what you eat”
   การเลือกกินอาหารแบบ “ชีวจิต” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการดูแลสุขภาพให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดีโดยอาศัยธรรมชาติมาช่วยบำบัด ในที่นี้ก็คือ การเลือกกินอาหารที่มาจากธรรมชาติและมีการดัดแปลงให้น้อยที่สุดนั่นเอง
ชนิดอาหารที่ควรกินในแต่ละมื้อ
  1. เน้นข้าวกล้อง หรืออาหารจำพวกแป้งไม่ขัดขาว
  2. หลีกเลี่ยงข้าวขาว แป้งขัดขาว ผลไม้รสหวานจัด (เช่น ทุเรียน เงาะ ลิ้นจี่ ลำไย) และอาหารจำพวกที่มีน้ำตาลเยอะๆ
  3. เน้นโปรตีนจากพืชเป็นหลัก เช่น ถั่วเหลือง เต้าหู้ เห็ด และสาหร่าย หากเป็นโปรตีนจากสัตว์  ให้เน้นเป็นปลาหรือไข่
  4. เน้นผักให้หลากหลายในอาหารแต่ละมื้อ
สัดส่วนอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ
  1. กลุ่มที่มีรูปร่างปกติ                        ข้าว 2 ส่วน ต่อผัก 1 ส่วน และผลไม้ 4 - 6 คำ ต่อ 1 มื้ออาหาร
  2. กลุ่มคนที่เป็นเบาหวาน หรือน้ำหนักเยอะ       ข้าว 1 ส่วน ต่อผัก 1 ส่วน และผลไม้ 3 - 4 คำ ต่อ 1 มื้ออาหาร
     ที่สำคัญควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้ 1 ลิตรครึ่ง ต่อ 1 วัน

2. “Exercise is medicine” การออกกำลังกาย คือ ยาวิเศษ

   การออกกำลังกายแบบ “ชีวจิต” ยกตัวอย่างเช่น “การรำกระบอง” จะช่วยกระตุ้นให้ Growth Hormone ที่มีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตหลั่งออกมาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ซึ่งจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อเราออกกำลังอย่างเต็มที่ สังเกตได้จากชีพจรหัวใจจะต้องเต้นแรงประมาณ 100 ครั้งต่อนาที และจะต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1 ชั่วโมง นอกจากการออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพแข็งแรงแล้วยังป้องกันเราให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บซึ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าการการเลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์อีกด้วย

3. “Detox” ดีต่อกาย ดีต่อใจ

   “Detox” (ดีท็อกซ์) หรือชื่อเต็มๆ “Detoxification” คือการกำจัดของเสียที่เป็นสาเหตุของการทำร้ายสุขภาพ ไม่ให้ตกค้างอยู่ในร่างกายนานเกินไป โดยปกติแล้วร่างกายของเราจะขับของเสียออกมาหลายช่องทาง เช่น ทางลำไส้ ทางไต ทางต่อมเหงื่อ และทางการหายใจ เป็นต้น ซึ่งถ้ามีสิ่งตกค้างจำนวนมาก ร่างกายกำจัดได้ไม่ทัน ก็จะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเสียประสิทธิภาพ เราจึงต้องมีวิธีช่วยร่างกายกำจัดสิ่งตกค้างเหล่านี้ออกไป

“Detox” มี 2 ประเภท
  1. Detox สิ่งที่เป็นสารพิษ หรือโลหะหนัก โดยการนำสารพิษออกจากกระแสเลือด เรียกว่า “Chelation”
  2. Detox สิ่งที่ไม่ใช่สารเคมี หรือสิ่งสกปรกในร่างกาย โดยการล้างของเสียออกจากลำไส้ เรียกว่า “Colonic Hydrotherapy” และ/หรือ “Coffee Enema”

   นอกจากกำจัดของเสียออกไป การเสริมตัวช่วยที่มีประโยชน์ อย่างเช่น “วิตามิน” เข้าสู่ร่างกายก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะร่างกายของเราไม่สามารถผลิตวิตามินขึ้นมาเองได้ การได้รับสารเสริมอาหารและไวตามินทดแทนที่ร่างกายขาดไป จะช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเกิดความสมดุลและกระตุ้นให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเสริมสร้างสุขภาพให้ดีขึ้นได้ เพียงนำวิตามินเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดเหมือนกับการให้น้ำเกลือ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 - 4 ชั่วโมงต่อครั้ง

4. “ตั้งรับเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ”

   ในช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาดและใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ การป้องกันตนเอง ไม่ว่าจะการใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือให้สะอาด การพักผ่อนให้เพียงพอ หรือการปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing อาจไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพเชิงรุกด้วยการทำให้ร่างกายของตนเองแข็งแรงและมีภูมิต้านทานที่ดีอยู่เสมอ จึงมีความจำเป็นในสภาวะนี้

สนับสนุนข้อมูลโดย : นพ.สัมพันธุ์ ธนกิจจำรูญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัว
โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1745

Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.